
ถุงบรรจุภัณฑ์แบบคอมโพสิตทำจากวัสดุหลากหลายชนิด รวมถึง PE (โพลีเอทิลีน) PP (โพลีโพรพิลีน) PET (โพลีเอสเตอร์) เป็นต้น วัสดุเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เช่น ทนความชื้น ทนความเย็น และทนอุณหภูมิสูง
ตัวอย่างเช่น ถุงบรรจุภัณฑ์แบบสองชั้นที่ทำจาก BOPP/LLDPE มีคุณสมบัติทนความชื้น ทนความเย็น และมีแรงดึงในการปิดผนึกด้วยความร้อนที่อุณหภูมิต่ำที่แข็งแกร่ง ซึ่งเหมาะสำหรับบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ขนมขบเคี้ยวแช่แข็ง เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น ถุงบรรจุภัณฑ์แบบสองชั้นที่ทำจาก PET/CPP มีคุณสมบัติกันความชื้น กันออกซิเจน เก็บกลิ่นหอม และทนต่ออุณหภูมิสูง ซึ่งเหมาะสำหรับบรรจุอาหารนึ่ง อาหารที่มีแอลกอฮอล์ และอาหารมีกลิ่นหอม
(1)ข้อมูลจำเพาะและขนาด:
เลือกขนาดและคุณสมบัติที่เหมาะสมให้เหมาะสมกับรูปร่าง ขนาด และความต้องการบรรจุภัณฑ์ของอาหาร
(2)ผู้ผลิต:
เลือกผู้ผลิตที่เชื่อถือได้และสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพและความปลอดภัยของถุงบรรจุภัณฑ์แบบคอมโพสิต
(3)ข้อควรพิจารณาอื่นๆ:
พิจารณาประเภทและเงื่อนไขในการจัดเก็บอาหาร เช่น จำเป็นต้องแช่เย็นหรือไม่ และสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้หรือไม่
พิจารณาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของถุงบรรจุภัณฑ์แบบคอมโพสิตและเลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลและย่อยสลายได้
1. การประยุกต์ใช้ถุงบรรจุภัณฑ์แบบผสม
(1)การถนอมอาหาร:
ถุงบรรจุภัณฑ์แบบคอมโพสิตสามารถแยกออกซิเจน ความชื้น และแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหารได้
(2)สะดวกในการพกพา:
ถุงบรรจุภัณฑ์แบบคอมโพสิตมีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก เหมาะสำหรับการบรรจุและขนส่งอาหารต่างๆ
(3) สุนทรียศาสตร์:
ถุงบรรจุภัณฑ์แบบคอมโพสิตสามารถตกแต่งได้ผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การพิมพ์และการปั๊มร้อน เพื่อเพิ่มความสวยงามและความน่าดึงดูดใจให้กับผลิตภัณฑ์
(4) ความปลอดภัย:
การเลือกใช้วัสดุและผู้ผลิตถุงบรรจุภัณฑ์คอมโพสิตที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถรับประกันความปลอดภัยของอาหารได้
2. สรุป
เมื่อเลือกและนำถุงคอมโพสิตมาใช้เพื่อบรรจุอาหาร จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างครอบคลุม เช่น วัสดุ ข้อกำหนด ผู้ผลิต ประเภทของอาหาร และเงื่อนไขการจัดเก็บ ด้วยการเลือกและนำถุงคอมโพสิตมาใช้อย่างเหมาะสม ก็สามารถรับประกันความปลอดภัยและอายุการเก็บรักษาของอาหารได้ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงความสวยงามและความน่าดึงดูดของผลิตภัณฑ์อีกด้วย